วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

"แทนคุณ-ภรรยาผู้ตาย" แถลงปฏิเสธเหตุสังหารส่วนตัว

"แทนคุณ-ภรรยาผู้ตาย" แถลงปฏิเสธเหตุสังหารส่วนตัว
"แทนคุณ-ภรรยาผู้ตาย" 
แถลงปฏิเสธเหตุสังหารส่วนตัว
 
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้ลงสมัคร สส.เขตดอนเมือง แถลงพร้อมภรรยาคนสนิทที่ถูกยิงเสียชีวิต คาดคนร้ายสังหารเนื่องจาก ผู้ตายไปทราบถึง แหล่งผิดกฎหมาย ร้องให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

นาย แทนคุณ จิตต์อิสระ และนางณัฐหทัย เครือสาย ภรรยานายชุติเดช สุวรรณเกิด ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในพื้นที่เขตดอนเมือง แถลงเรียกร้องทั้งฝ่ายการเมืองและตำรวจยุติการชี้นำประเด็นการสังหาร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้ตายไม่ได้ถูกสังหารเพราะประเด็นส่วนตัวหรือธุรกิจที่ดำเนินอยู่ หากแต่เกิดจากไปรับรู้ข้อมูลแหล่งผิดกฎหมายในเขตดอนเมือง โดยเฉพาะการจับกุมบ่อนการพนันในย่านดอนเมืองก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เรียกร้องให้ชุดสืบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากเกินกว่านี้ก็จะพิจารณาหาช่องทางขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นต่อไป


ขอบคุณข้อมูลจาก

มติครม.หยุดปีใหม่ "31ธ.ค.-3ม.ค." ติดต่อกัน 4 วัน

มติครม.หยุดปีใหม่ "31ธ.ค.-3ม.ค." ติดต่อกัน 4 วัน
ครม.มีมติให้ 31 ธ.ค.54 - 3 ม.ค.55 เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ นายกฯ จัดครม.สัญจรเดือนละครั้งประเดิมที่เชียงใหม่ 16 ม.ค.นี้



นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่าที่ประชุม ครม. วันเดียวกันนี้นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำสำนักงบประมาณให้เงินช่วยเหลือเยียวยาถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด และให้ ครม.ระมัดระวังการจ่ายเงิน และไม่ให้มีทุจริตใดๆ ที่จะเป็นการซ้ำเติมประชาชน พร้อมขอให้ตรวจสอบความโปร่งใส โดยเฉพาะการรับจำนำข้าวของกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงโครงการต่างๆ ขอให้เจ้ากระทรวงดำเนินการตรวจสอบด้วย ทั้งนี้รัฐบาลจะจัด ครม.สัญจรเดือนละ 1 ครั้ง โดยเริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 16 มกราคม 2555

ด้าน นางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติให้วันที่ 31 ธันวาคม 2554 - 3 มกราคม 2555 เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 4 วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชนได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด และให้ประชาชนได้มีเวลาหยุดซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมขัง โดยครอบคลุมภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ส่วนสถาบันการเงิน ต้องรอมติคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อนว่า จะให้วันที่ 3 มกราคม 2555 เป็นวันหยุดหรือไม่





ข้อมูลจาก :

"อภิสิทธิ์-สุเทพ"ชี้ 91 ศพเป็นฝีมือชายชุดดำ

"อภิสิทธิ์-สุเทพ"ชี้ 91 ศพเป็นฝีมือชายชุดดำ


อภิสิทธิ์-สุเทพ เข้าให้ปากคำ ต่อพนักสืบสวนยันผู้เสียชีวิต 91 ศพ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายชายชุดดำ

หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้าให้ปากคำ ต่อพนักสืบสวนชันสูตรพลิกศพ แนวร่วม นปช.16 ศพ ที่ระบุว่า เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งทั้งสองคนยืนยันตรงกันว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายชายชุดดำ

ขอบคุณข้อมูลจาก

รมช.ศึกษาธิการยอมรับพบ “ทักษิณ” จริงที่อินเดีย

รมช.ศึกษาธิการยอมรับพบ “ทักษิณ” จริงที่อินเดีย
รมช.ศึกษาธิการยอมรับพบ “ทักษิณ” จริงที่อินเดีย
 
“บุญรื่น” รมช.ศึกษาธิการ ยอมรับได้พบกับ “ทักษิณ” จริง แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการปรับ ครม. บอกรับได้หากถูกปรับออกจาก ครม.
ด้านนางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ ยอมรับว่า ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางไปทอดกฐินที่ประเทศอินเดีย แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีหรือกล่าวหารัฐมนตรีท่านใด เพียงแต่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้คำแนะนำเรื่องการเรียนการสอนให้นักเรียนมีระเบียบวินัย เท่านั้น ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่ขัดข้องหากจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวเป็นครูมากว่า 40 ปี ก็ถนัดในการดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนปัญหาเรื่องการแบ่งงานกับ รมว.ศึกษาธิการ สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ทั้งนี้ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีและผู้ใหญ่ในพรรคมีอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี


ขอบคุณข้อมูลจาก

นายกฯเป็นประธานแต่งงานหลานสาว"พินทองทา"

นายกฯเป็นประธานแต่งงานหลานสาว"พินทองทา"
 
 นายกรัฐมนตรีเป็นประธานแต่งงานหลานสาว “เอม-พินทองทา ชินวัตร” ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก สมเด็จฮุน เซน ส่ง “ฮุน มาเน็ต” บุตรชายร่วมพิธีด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เดินทางมาเป็นประธานในงานฉลองมงคลสมรสระหว่าง น.ส.พินทองทา ชินวัตร และ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน  โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดาคณะรัฐมนตรี นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจมาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยทั้งคู่ได้เตรียมของชำร่วยเป็นที่กรองชาที่ทั้งสองคนช่วยกันเลือก สื่อถึงการกลั่นกรองความรัก จนได้มาของความรักที่บริสุทธิ์

อย่างไร ก็ตาม ในงานดังกล่าวไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ แต่ได้เตรียมห้องรับรองสื่อไว้ให้สัมภาษณ์ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินีดูแลความเรียบร้อยตามอาคารต่าง ๆ ทั้งนี้ น.ส.พินทองทา เป็นบุตรสาวคนกลางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ขณะที่ฝ่ายชายเป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัวคุณากรวงศ์ ดำเนินธุรกิจผลิตเสื้อผ้าส่งออก

และเมื่อ เวลา 17.30 น.  น.ส.พินทองทา และนายณัฐพงศ์ ได้เดินมาเปิดตัวต่อสื่อมวลชน โดยมีนายพานทองแท้ ชินวัตร  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายกรัฐมนตรี ตามมาสมทบ โดย น.ส.พินทองทา กล่าวกับสื่อมวลชนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บิดา ได้อวยพรให้รักกันและให้ลืมคำว่าอุปสรรคไปได้เลย และให้ขยันขันแข็ง ซึ่งตนก็อยากให้บิดามาร่วมงาน ถือเป็นเรื่องธรรมดาของบุตรสาว แต่เมื่อบิดามาไม่ได้ ตนก็เข้าใจ ไม่เป็นไร เพราะบุตรทุกคนก็มีบิดาอยู่ในใจอยู่แล้ว

น.ส.พินทองทา กล่าวด้วยว่า สำหรับอนาคตหลังแต่งงานนั้น ทางบิดามารดาก็อยากให้รีบมีบุตร แต่ตอนนี้ตนขอทำงานและเที่ยวก่อน ยังไม่อยากมีบุตรในตอนนี้ ส่วนมารดาก็ย้ำว่า หากชีวิตคู่มีปัญหาอะไร ก็ขอให้นึกถึงในสิ่งดี ๆ ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่างรายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ส่ง พล.ท.ฮุน มาเน็ต บุตรชาย และ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาร่วมงานด้วย.- สำนักข่าวไทย

ข้อมูลจาก :

ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายกรัฐมนตรี กำชับตำรวจเร่งหาคนร้ายลอบยิงคนสนิทนายแทนคุณ จิตต์อิสระ พร้อมระบุคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยกว่า 2 หมื่นล้านบาท



นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ อนุมัติงบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยเบื้องต้น 5,000 บาท และชดเชยความเสียหายพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่ชำรุด โดยยึดหลักเกณฑ์ การบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ใช้ในโครงการจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภค เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงานในชุมชน และต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ เบื้องต้น มอบหมายให้คณะรัฐมนตรีรับผิดชอบเป็นรายจังหวัด ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้ถึงมือประชาชน นอกจากนี้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งผู้ตรวจราชการแต่ละกระทรวงตรวจสอบซ้ำ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงคดีลอบสังหารนายชุติเดช สุวรรณเกิด คนสนิทนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ได้กำชับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เร่งสืบสวนหาคนร้ายโดยเร็ว ซึ่งส่วนตัวไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าไปเกี่ยวข้อง ควรให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปแทกแซง และหากนายแทนคุณ ต้องการการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ สามารถประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลได้โดยตรง


ข้อมูลจาก :

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

นายกฯวางพานพุ่มสักการะร.7-ยังไม่ปรับชทพ.

นายกฯวางพานพุ่มสักการะร.7-ยังไม่ปรับชทพ.
นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี วางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคม รัชกาลที่ 7 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์หน้าอาคารรัฐสภา 1 เนื่องในวันพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย


     น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี วางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์หน้าอาคารรัฐสภา 1 เนื่องในวันพระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อน้อมรำลึกพระเกียรติคุณและแสดงกตัญญูกตเวที ที่ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งประเทศไทย โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีตัวแทนจากส่วนราชการ หน่วยงาน คณะบุคคล นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง อาทิ กรมพัฒนาชุมชน กรมป่าไม้ กระทรวงอุตสาหกรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พรรคประชากรไทย พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมสักการะด้วย

     จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกระแสข่าวว่าจะปรับพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากการร่วมคณะรัฐมนตรีนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ไม่มีหรอกค่ะ ไม่มีอะไรเลย วันนี้ยังเตรียมเรื่องฟื้นฟูน้ำท่วมกันอยู่เลย ยังร่วมงานกันดี ส่วนกิจกรรมฟื้นฟูนั้น ยังมีพื้นที่ที่น้ำท่วม และพื้นที่ ที่ยังไม่เรียบร้อย ซึ่งรัฐบาลจะเร่งทำ เรื่องนี้เป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องทำต่อไป"

ข้อมูลจาก :

นายกฯขอบคุณคนไทยร่วมงานวันเฉลิมฯ

นายกฯขอบคุณคนไทยร่วมงานวันเฉลิมฯ
นายกฯกล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน บอกขอบคุณคนไทยร่วมงานวันเฉลิมฯ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จากสัปดาห์ที่ผ่านมาจนมาถึงสัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่คนไทยทั้งชาติมีความปลื้มปีติในการร่วมถวายพระพรชัย มงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรวาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพระชัยมงคล ณ มุขเด็จ ที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในการนี้ได้พระราชทานแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการจัดการบริหารน้ำแบบยั่งยืน รวมทั้งได้ทรงพระกรุณาย้ำว่าให้ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องร่วมมือในการปฏิบัติ แก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะในเวลานี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน และมีความยากลำบากจากปัญหาน้ำท่วม จึงชอบด้วยกันที่จะปัดเป่าแก้ให้นี้ผ่านไปโดยเร็ว และยังมีอีกตอนหนึ่งความว่า ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้ง แตกแยกกัน แต่หากต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่เป็นประโยชน์ คือ ความผาสุขของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ

"ในฐานะที่ดิฉันเป็นตัวแทนของรัฐบาล และพี่น้องประชาชน จะน้อมนำพระราชดำรัสใส่เกล้าใส่กระหม่อม ถือปฏิบัติอย่างถึงที่สุด และนำพระแสรับสั่งของพระองค์มาเน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ผ่านมาด้วย และนอกจากนี้ยังได้มีการเร่งดำเนินการผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำอย่าง ยั่งยืน หรือกยน. ที่จะมีการเร่งรัดวางแผนแม่บทควบคุมกับการแก้ไขน้ำในปัจจุบัน " น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ตนในนามรัฐบาล ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันแสดงออก และเข้าร่วมกิจกรรมในการงานเฉลิมพระเกียรติในวันมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งรัฐบาลได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 - 9 ธ.ค. ที่ท้องสนามหลวงผ่านมา โดยในแต่ละคืนมีพี่น้องประชาชนนับหมื่นเข้าไปร่วมงาน และไปร่วมกันถวายพระพรที่ต้นโพธิ์ ต้นไทร ที่ได้มีการจัดสร้างขึ้น เพื่อให้ประชาชนคนไทยร่วมกันแสดงออกในความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ส่วนอีกกิจกรรมหนึ่งที่รัฐบาล และภาคเอกชน ได้ร่วมกันจัดขึ้น ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา คือ โครงการ 5 ธันวา รวมพลังคนไทยรวมหัวใจถวายพระพรชัยมงคล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ร่วมดันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความพร้อมใจกันของคนไทยทั้งชาติ ที่รวมกันเป็นหนึ่งในการรวมแรงร่วมใจในการทำงานเพื่อบ้านเมืองในการช่วยกัน ฟื้นฟูประเทศ และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งในวันนี้ในหลายพื้นที่สถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายแล้ว

ข้อมูลจาก :

ชทพ.มั่นใจ รมต.ไม่ถูกปรับพ้นครม.‏

ชทพ.มั่นใจ รมต.ไม่ถูกปรับพ้นครม.‏
“พรรคชาติไทยพัฒนา” หนุนเสื้อแดงเคลื่อนไหวแก้ รธน. ระบุเป็นจุดยืนเดิมของพรรค แต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสม ชี้ “มาร์ค-เทือก-กี้” เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นสัญญาณที่ดี



นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าให้ปากคำกับเจ้าพนักงานสอบสวนกรณีการสลายการชุมนุม 10 เม.ย.-19 พ.ค.53 ว่า เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งจะทำให้ข้อเท็จจริงและข้อเคลือบแคลงต่อเหตุการณ์สลายการชุมนุมจะได้รับ ความชัดเจนขึ้น เช่นเดียวกับกรณีที่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ามอบตัว ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะก้าวเข้าสู่กระบวนการปรองดองของชาติ และเป็นการตัดสินใจที่รับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะได้กล่าวชื่นชมการตัดสินใจของนายอริสมันต์ พร้อมเรียกร้องให้กลุ่ม นปช.ที่สนับสนุนนายอริสมันต์อย่าเคลื่อนไหวกดดันศาล แต่ควรปล่อยให้เป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณาว่าจะอนุญาตประกันตัวได้หรือ ไม่

นอกจากนี้ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช.ออกมาเรียกร้อง เพราะถือเป็นจุดยืนของพรรค ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด แต่เห็นว่าการดำเนินการไม่ควรเร่งรัด เพราะควรให้เวลารัฐบาลได้เร่งฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วมให้แล้วเสร็จก่อน อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ควรให้พรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนร่วม เพื่อลดข้อครหาที่ว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง

ส่วนกรณีกระแสข่าวการปรับครม.นั้น นายวัชระเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีในโควต้าของพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐมนตรีในสังกัดพรรคล้วนมีผลงานทุกคน อีกทั้งไม่เคยมีปัญหากับรัฐมนตรีจากพรรคอื่น เหมือนกระทรวงศึกษาธิการ หรือ กระทรวงคมนาคม ที่ปรากฎเป็นข่าว ยอมรับว่ามีคนจ้องจะแย่งเก้าอี้ของพรรค แต่มั่นใจว่าไม่สามารถทำได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับ ครม.ในช่วงเดือนมกราคม 2555 แต่จะเป็นในส่วนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น


ทีมข่าวการเมือง

รายงาน


ข้อมูลจาก :

"ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" เตรียมประชุมนัดแรก คกก.ปราบเว็บหมิ่นสถาบันวันนี้

"เฉลิม" เตรียมประชุมนัดแรก คกก.ปราบเว็บหมิ่นวันนี้
 
รัฐบาล ตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน มี "เฉลิม" เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ประชุมนัดแรกวันนี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายการป้องกันและปราบ ปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสมผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร 22 คน โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน และกรรมการเป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โดยจะประชุมนัดแรกวันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะเดียวกันจะมีการติดตั้งเครื่องมือ รวมทั้งติดตามตรวจสอบการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และจะรายงานผลการปฏิบัติงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ เบื้องต้นหากพบผู้กระทำผิดจะใช้การเจรจาก่อน หากไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป

ขณะเดียวกันได้มอบ หมายให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในส่วนของตำรวจ และให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูเรื่องกำลังคน ส่วนเรื่องเทคโนโลยี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงกลาโหม และตำรวจ จะทำงานร่วมกัน

ขณะที่การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ในการพิจารณางบประมาณของกระทรวงไอซีที ในส่วนของสำนักปลัดกระทรวงไอซีที วงเงิน 3,900 ล้านบาท กรรมาธิการฝ่ายค้านได้ซักถามถึงการจัดการการกระทำความผิดหมิ่นสถาบันพระมหา กษัตริย์ผ่านทางเว็บไซต์ หลังจากยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

นาง จีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที ได้ชี้แจงว่า การกระทำความผิดหมิ่นสถาบันฯ ผ่านทางเว็บไซต์มีจำนวนไม่มาก โดยเป็นบุคคลกลุ่มเก่าคอยดำเนินการ ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงการ ต่างประเทศ เพื่อประสานกับผู้ให้บริการในต่างประเทศ โดยเฉพาะเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก กูเกิ้ล ยูทูบ ซึ่งมีการกระจายข้อความรวดเร็วแพร่หลายมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีได้พยายามจัดการที่ต้นตอ โดยขอความร่วมมือไปยังผู้ดูแลเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล และยูทูบ โดยกระทรวงฯ ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกูเกิ้ลและยูทูบ
ปลัดกระทรวงไอซี ทีกล่าวว่า สำหรับเฟซบุ๊ก มีนโยบายว่า ทุกคนสามารถเผยแพร่ข้อมูลอะไรก็ได้ ไม่ได้จำกัดสิทธิ์ เพราะการยิ่งไม่จำกัดสิทธิมากเท่าไร เว็บไซต์จะยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกันตอนนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากเฟซบุ๊กแล้ว หลังทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการกว่า 5 เดือน ซึ่งปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้รับการตอบรับมาว่า มีการยอมปิดบัญชีผู้ใช้บางรายที่มีการเผยแพร่ข้อความดังกล่าว ทำให้สามารถลดผู้ที่เผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสมได้แล้วถึง 60,000 คน


ขอบคุณข้อมูลจาก

"สุเทพ เทือกสุบรรณ" ยืนยันสั่งกระชับพื้นที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

"สุเทพ เทือกสุบรรณ" ยืนยันสั่งกระชับพื้นที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
"สุเทพ" ยันสั่งกระชับพื้นที่ชอบด้วยกฎหมาย
 
ตำรวจ เรียกอดีตรองนายกรัฐมนตรีไปสอบปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดในคำสั่งของ ศอฉ.ที่สั่งให้ทหารเข้ากระชับพื้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัว แต่ยังไม่มีการสอบสวนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลในเหตุการณ์ทั้ง 16 คน ขณะที่นายสุเทพยืนยันว่ายืนยันการเข้ากระชับพื้นที่ในวันดังกล่าวปฏิบัติถูก ต้องตามกฎหมาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะพยานคดีที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่เมื่อวันที่ 10 เมษายนปีที่แล้ว จนมีผู้เสียชีวิต 16 คน ซึ่งมีทั้งสมาชิก นปช., ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น และทหาร โดยใช้เวลาในการสอบปากคำนาน 3 ชั่วโมง

นาย สุเทพ เปิดเผยว่า ตำรวจถามเกี่ยวกับการออกคำสั่งของ ศอฉ. ที่ให้ทหารเข้ากระชับพื้นที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ซึ่งได้แสดงหลักฐานเป็นรูปภาพชายชุดดำ ซึ่งอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุมาแสดง เพื่อยืนยันว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของบุคคลในเหตุการณ์ นอกจากนี้ยังมีสำเนาเอกสารคำสั่งในการเข้ากระชับพื้นที่ และยืนยันว่า ตัวเองเป็นคนสั่งการเพียงผู้เดียว

ตำรวจได้นัดให้นายสุเทพ เข้าให้การอีกครั้งในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ซึ่งนายสุเทพเปิดเผยว่าจะนำวิดีโอ ซึ่งมีภาพเหตุการณ์ในวันดังกล่าวมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน และในวันพรุ่งนี้ นายอภิสิทธิ์ จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในกรณีเดียวกันนี้ด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก